Forex Fdic ประกัน

บริษัท หลักประกันเงินฝากแห่งชาติ - FDIC วัตถุประสงค์หลักของ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) คือการป้องกันการวิ่งหนีสถานการณ์ธนาคารที่ทำลายล้างธนาคารหลายแห่งในช่วง Great Depression ก่อน FDIC ไม่มีการรับประกันใด ๆ นอกเหนือความมั่นคงของธนาคาร นั่นหมายความว่ามีเพียงผู้ที่เป็นคนแรกที่ถอนเงินออกจากธนาคารที่ประสบปัญหาจะได้รับมันบรรดาผู้ที่รอคอยยืนอยู่ความเสี่ยงของการสูญเสียเงินออมชีวิตของพวกเขาข้ามคืน เนื่องจากความกลัวการปิดบัญชีของธนาคารเริ่มแพร่กระจายออกไปหยดเล็ก ๆ ของลูกค้าที่กังวลที่กำลังมองหาการถอนเงินเร็ว ๆ นี้จะกลายเป็นเหตุร้ายจนกระทั่งธนาคารไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอถอนเงินได้ ความแตกต่าง FDIC เนื่องจากธนาคารและ Thrifts ทุกแห่งนำเสนอความคุ้มครอง FDIC ลูกค้าจึงไม่มีเหตุผลที่จะตกใจแม้ว่าสถาบันการเงินจะตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในกรณีของความล้มเหลวของธนาคาร FDIC ครอบคลุมเงินฝากถึง 250,000 ซึ่งมากกว่าเพียงพอสำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ จึงไม่มีการเรียกใช้ธนาคารจะถูกเรียกใช้และธนาคารมีโอกาสในการต่อสู้ในการคัดแยกปัญหาต่างๆภายใต้สถานการณ์ที่ควบคุมได้ บัญชีใดบ้างที่ได้รับการตรวจสอบบัญชี บัญชีออมทรัพย์ หนังสือรับรองเงินฝาก (CD) และบัญชีตลาดเงินโดยทั่วไปมีอยู่ประมาณ 100 แห่งโดย FDIC บัญชีที่เชื่อถือได้และบัญชีสำหรับการเกษียณอายุส่วนบุคคล (IRA) จะครอบคลุม แต่เฉพาะส่วนที่พอดีกับประเภทบัญชีที่ระบุไว้ด้านบน ประกัน FDIC ไม่ครอบคลุมถึงประเภทของผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ เช่นกองทุนรวม ค่างวด นโยบายการประกันชีวิตหุ้นหรือพันธบัตร เนื้อหาของตู้เซฟไม่รวมอยู่ในความคุ้มครอง FDIC อย่างใดอย่างหนึ่ง แคชเชียร์เช็คและใบสั่งจ่ายเงินที่ออกโดยธนาคารที่ล้มเหลวจะยังคงได้รับการคุ้มครองโดย FDIC อย่างเต็มที่ การติดต่อกับ FDIC ลูกค้าสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกับ FDIC ก่อนวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ธนาคารหรือเงินฝากออมทรัพย์ลดลง สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ FDIC โทรศัพท์สายด่วนช่วยให้ลูกค้าธนาคารได้รับความช่วยเหลือในแบบของคุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยโทร 877-275-3342 (1-877-ASKFDIC) โปรดทราบว่า FDIC จะประกันเฉพาะความล้มเหลวของธนาคารเท่านั้น กรณีการทุจริตการโจรกรรมและการสูญเสียที่คล้ายคลึงกันจะได้รับการจัดการโดยคำตอบของคำถาม bankmon เรามีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโกและ บริษัท ในเครือทั่วโลก ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ 7) สิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น ๆ ความเชี่ยวชาญและอายุยืนยาวในธุรกิจของเราทำให้เราแตกต่างออกไป เป็นคำพูดไปคุณ dont ได้รับจะดีที่สุดเพราะคุณเป็นที่เก่าแก่ที่สุดคุณจะได้รับที่เก่าแก่ที่สุดเพราะคุณเป็นดีที่สุด นอกจากนี้ลูกค้าของกลุ่ม Zaner ทุกรายแม้กระทั่งผู้ค้าปลีกที่กำกับด้วยตนเองออนไลน์มีโบรกเกอร์ส่วนบุคคลที่พวกเขาสามารถโทรและอีเมลพร้อมคำถามคำขอหรือประเด็นต่างๆ ลูกค้าของเราไม่ได้โทรหาศูนย์บริการเมื่อมีปัญหาหรือปัญหา พวกเขาเรียกนายหน้าส่วนตัวของพวกเขา 2) ระยะเวลา Zaner ได้รับในธุรกิจ Zaner ได้รับ บริษัท นายหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สำหรับปี 3) ชั่วโมงของคุณคืออะไรชั่วโมงทำงานปกติสำหรับสำนักงานใหญ่ของชิคาโกคือ 9.00 น. CST - 17.00 น. CST วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ชั่วโมงสาขาและเครือข่ายพันธมิตรอาจแตกต่างกัน ชั่วโมงการสนับสนุนทางการค้าเกือบ 247 4) ค่าคอมมิชชั่นของคุณคืออะไร Commission เราเสนอประเภทบัญชีและโซลูชันการซื้อขายจำนวนมากดังนั้นอัตราค่านายหน้าแต่ละรายการจึงถูกสร้างขึ้นเอง อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับ: ระดับการให้บริการรูปแบบการซื้อขายสัญญาโดยเฉลี่ยต่อตั๋วสัญญาที่คุณทำเป็นรายเดือนระดับความเสี่ยงของบัญชีค่าธรรมเนียมเราระบุและแสดงรายการบางส่วนของค่าใช้จ่ายการซื้อขายของคุณทั้งหมดในงบของคุณ ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 5) คุณได้ลงทะเบียนและควบคุม Zaner ได้รับการควบคุมและจดทะเบียนกับ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และเป็นสมาชิกของสมาคมฟิวเจอร์สแห่งชาติ (National Futures Association) หรือไม่? (NFA) ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2525 นอกจากนี้เรายังเป็นสมาชิกของ National Broker Association สมาคมหอการค้าแห่งรัฐอิลลินอยส์และ Better Business Bureau 6) ฉันต้องการเป็นที่ปรึกษาจากต่างประเทศ IB อะไรคือข้อกำหนดกรุณาติดต่อเราที่หมายเลข 312-277-0050 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม 8) ฉันขอเครดิตสำหรับการแนะนำเพื่อนกับ Zaner ใช่เรายินดีต้อนรับการแนะนำผลิตภัณฑ์เสมอ รับส่วนลดการซื้อขาย 50 ครั้งสำหรับลูกค้าแต่ละรายที่คุณอ้างถึงเรา กรุณาโทรหาเราที่หมายเลข 312-277-0050 เพื่อดูรายละเอียด 9) บัญชีประเภทใดที่คุณยอมรับเราให้บริการบัญชีแก่ลูกค้าทั่วโลก ผู้ถือหุ้นรายย่อยร่วมกันในสิทธิร่วมประเวณีกับ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด LLC Trusts Retirement (IRA) หนังสือมอบอำนาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนการดำเนินการจัดการซื้อขายกระดาษ 10) จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องการในการเปิดบัญชีขึ้นอยู่กับอะไร บริการและประเภทบัญชี โดยทั่วไป 5000 เป็นค่าต่ำสุด 11) เงินของฉันอยู่ที่ใดเงินฝากสำหรับบัญชีฟิวเจอร์สอยู่ในบัญชีแยกประเภทกันที่ บริษัท หักบัญชีของคุณ 12) FDIC ของฉันเป็นเงินประกันหรือไม่อย่างอื่น 13) ฉันจะตรวจสอบกิจกรรมบัญชีของฉันได้อย่างไรบัญชีทั้งหมดที่ Zaner สามารถตรวจสอบใบแจ้งหนี้ออนไลน์แฟกซ์หรือทางไปรษณีย์ได้ 14) ข้อกำหนดด้านกำไรสำหรับการถือครองตำแหน่งข้ามคืนคือกำหนดโดยอัตราแลกเปลี่ยน Zaner โดยทั่วไปต้องการอัตราแลกเปลี่ยนขั้นต่ำ รายการกำไรที่สมบูรณ์แบบ 15) อัตรากำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันของคุณ Zaners day-trading margin อยู่ที่ 500 เท่ากฎเกณฑ์ที่ดีคือ 50 ของกำไรข้ามคืน 16) ฉันสามารถซื้อขายหุ้นกับคุณ Zaner เชี่ยวชาญเฉพาะในตลาดฟิวเจอร์สและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น 17) ฉันสามารถสาธิตแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณได้อย่างไรธนาคาร Mammoths 10 อันดับแรกของสหรัฐฯมีสินทรัพย์ทั้งหมด 11 ล้านล้านล้านล้านดอลลาร์ ปัญหาเรามีธนาคารกว่า 7,650 แห่ง การผูกขาดด้านการธนาคารทำให้เกิดความมั่งคั่งขึ้นที่ด้านบน ปัญหาใหญ่เกินไปที่จะล้มเหลวยังคงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการจัดการแม้ว่าหลายคนต้องการที่จะละเลยมันเช่นความลับดำมืดขนาดใหญ่ FDIC ระดมเงินฝากและไม่มีกองทุนประกันเงินฝาก ฉันรู้ว่าชาวอเมริกันจำนวนมากมีช่วงเวลาที่ลำบากในการเชื่อ แต่นี่เป็นความจริงที่หนาวเย็น สิ่งปลูกสร้างธนาคารทั้งประเทศของเรามีความศรัทธาที่บริสุทธิ์รวมกับการสนับสนุนธนาคารและรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดของเรา นี้ wouldnt เป็นเช่นปัญหาถ้าธนาคารดำเนินการเป็นเสนาบดีที่รับผิดชอบของเศรษฐกิจ แต่พวกเขาได้ใช้กระเป๋าสตางค์ผู้เสียภาษีอากรเป็นชนิด piggybank บุฟเฟ่ต์ไม่รู้จบ อะไรคือสิ่งที่น่าหนักใจขึ้นอยู่กับข้อมูลล่าสุด 10 บริษัท โฮลดิ้งที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯกำลังรายงานสินทรัพย์มูลค่า 11 ล้านล้านดอลลาร์ ตอนนี้ทำไมถึงเป็นปัญหา FDIC มั่นใจได้ถึง 7,657 ธนาคารที่มีสินทรัพย์ 13 ล้านล้านเหรียญ กล่าวอีกนัยหนึ่งร้อยละ 84 ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารอยู่ในมือของธนาคารใหญ่สิบแห่ง นี่คือการผูกขาดในยุคปัจจุบัน ลองดูแผนภูมินี้สำหรับ 10 อันดับแรกของธนาคาร: การจัดจำหน่ายแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของเรา เราได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อธนาคารยักษ์ล้มเหลวเนื่องจากพวกเขาได้รับอนุญาตให้เติบโตใหญ่เกินไปเพื่อประโยชน์ของตนเอง การเรียงลำดับของความไม่สมดุลเกิดขึ้นและหากสิ่งที่ชนกันตามปกติแล้วผู้เสียภาษีอากรก็เหลือการถือครองกระเป๋าขยะไว้ ทุก ๆ สัปดาห์ธนาคารขนาดเล็กหนึ่งหรือสองแห่งล้มเหลวเกือบจะไม่มีข่าวใด ๆ นี่เป็นวิธีที่เศรษฐกิจของเราน่าจะดีขึ้น สินทรัพย์ของธนาคารควรมีการกระจายในรูปแบบที่เป็นไปได้ยิ่งขึ้นหากธนาคารที่ใหญ่ที่สุดล้มเหลวจะมีธนาคารเพียงพอที่มีสินทรัพย์เพียงพอที่จะทำขึ้นเพื่อให้บริการที่หายไปจากธนาคารแห่งหนึ่ง มันจะไม่ใช่ปัญหาที่เป็นระบบ แต่หลายขนาดใหญ่เกินไปที่จะล้มเหลวจะต้องได้รับภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลเพื่อให้หนี้สินมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าของสินทรัพย์ นี่เป็นวิธีการเก็งกำไรโดยบังเอิญจากผู้เสียภาษีอากรชาวอเมริกัน ขณะที่การเล่นการพนันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การระเหยของความมั่งคั่งในเศรษฐกิจที่แท้จริง การกระจายเหล่านี้สร้างปัญหาที่น่าทึ่ง ตัวอย่างเช่นการกระจายความมั่งคั่งทางการเงินในสหรัฐอเมริกา: ที่มา: William Domhoff อันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาควบคุม 42% ของความมั่งคั่งทางการเงินทั้งหมด แต่ทำลายลงไปเราตระหนักดีว่าการควบคุมด้านบน 10 เปอร์เซ็นต์มีสัดส่วน 93% ของความมั่งคั่งทางการเงินทั้งหมด ความไม่สมดุลนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในสหรัฐอเมริกาก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ มันเป็นเรื่องน่าขันในประวัติศาสตร์ว่าในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกมั่งคั่งมากขึ้นเนื่องจากพวกเขากลายเป็นหนี้ผู้บริโภคจำนวนมาก (ไม่มีอะไรเหมือนกับวันนี้) และมีความสามารถในการเก็งกำไรในตลาดหุ้นที่มีกำไร ในขณะที่ประมาณว่ามีเพียง 1 ล้านคนอเมริกันขลิบในตลาดหุ้นในเวลานั้นส่วนใหญ่ของความมั่งคั่งอีกครั้งรวมอยู่ด้านบนเช่นเดียวกับวันนี้ ส่วนใหญ่ที่ผู้ชมเท่านั้นที่ซื้อตั๋วจับสลากเพื่อรับการแสดงที่อุดมไปด้วย ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์จากด้ามจับกับหนี้ในขณะที่ความมั่งคั่งทางการเงินที่ปราศจากภาระผูกพันจะช่วยให้เศรษฐกิจของเราเล็กลง ในขณะที่บางคนก็อ้างว่านี่เป็นผลสิ้นสุดของทุนนิยมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความเป็นจริงแล้วความมั่งคั่งจะถูกดูดซึมออกจากชนชาติที่มีประสิทธิผลโดยชนชั้นนำที่ซื้อนักการเมืองออกไปและสร้างระบบที่ดีต่อผู้ที่มีความหมายและไม่ใช่ด้วยความคิดที่ดีที่สุดหรือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุด . เป็นระบบการปกครองแบบเผด็จการและระบบเหล่านี้ไม่ได้เป็นแบบสุดท้าย ตอนนี้การเติบโตของระบอบประชาธิปไตยกำลังเกิดขึ้นหลังชนชั้นกลางที่กำลังหดหู่ ลองดูที่ตัวเลขดิบของสินทรัพย์ที่ธนาคารชั้นนำเหล่านี้: Bank of America เป็นผู้นำที่มีสินทรัพย์ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์รองลงมาคือ JP Morgan Chase ที่ 2.1 ล้านล้าน CitiGroup มีมูลค่า 1.9 ล้านล้านและ Wells Fargo มีสินทรัพย์ 1.2 ล้านล้านเหรียญ เป็นที่น่าแปลกใจที่โกลด์แมนแซคส์มีมูลค่า 911 พันล้านเหรียญแม้ว่าจะไม่ใช่ธนาคารแบบดั้งเดิมเช่นเดียวกับสี่อันดับแรกก็ตาม แต่ไม่มีธนาคารในระดับนี้เป็นแบบดั้งเดิมอีกต่อไป ธนาคารเหล่านี้มีธนาคารพาณิชยศาสตร์และการธนาคารผสมกันและนั่นคือเหตุผลที่คุณเห็น Morgan Stanley อยู่เบื้องหลัง Goldman ปัญหาเกี่ยวกับสินทรัพย์เหล่านี้คือหลายธนาคารเหล่านี้กำลังเรียกร้องอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยด้วยมูลค่าที่สูงขึ้น เงินให้กู้ยืมแก่ธนาคารเป็นสินทรัพย์ที่แท้จริง ตัวอย่างเช่นสมมติว่านักลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จำนวน 100 ล้านดอลลาร์ในลาสเวกัสและยืมเงินกับธนาคารแห่งอเมริกา 90 ล้านนี้เป็นเงินกู้ยืม ธนาคารแห่งอเมริกาสามารถเรียกร้องสินทรัพย์ 90 ล้านบาทได้ สมมติว่าซื้อที่จุดสูงสุดและมูลค่าของการลงทุนอยู่ที่ 40 ล้าน (หรือน้อยกว่า) เป็นไปได้อย่างไรที่ Bank of America สามารถอ้างว่าที่ดินนี้มีมูลค่า 90 ล้านบาทเพียงเพราะมูลค่าของเงินกู้นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันในอเมริกา เกมแกล้งทำเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถสูญเสียคุณค่าได้ แต่ก็มี หลายคนมองเห็นความไร้เหตุผลในการบัญชีประเภทนี้ เพียงใช้ค่าที่สูงเทียมเพื่ออ้างสิทธิ์เนื้อหาในระดับสูงสุด ในความเป็นจริงเท่าใดของรายการสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าจริงๆสิ่งที่พวกเขาบอกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะพูด แต่ก็มีโอกาสมากลดลงและธนาคารรู้เรื่องนี้เพื่อให้พวกเขามีระบบรั่วออกคุณสมบัติเข้าสู่ตลาดในขณะนี้ว่าพวกเขาได้ shored ขึ้นทุนของพวกเขา งบดุลที่มีล้านดอลลาร์ของผู้เสียภาษีอากร Federal Reserve เป็นเนื้อหากับประชาชนที่มีขนสัตว์รั้งเหนือตาของพวกเขา เรื่องนี้คล้ายกับเมื่อถูกยึดทองในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในปีพ. ศ. 2473 แต่ผู้ที่ยึดทองคำหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีคุณค่าอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีในขณะที่สหรัฐฯได้ลดค่าเงินดอลลาร์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ บรรทัดล่างคือรัฐบาลจะไม่บอกคุณว่าอะไรดีสำหรับคุณ แม้ในขณะนี้หลังจากการชุมนุม 10 ปีฟองสบู่หรือสิ่งที่คุณต้องการเรียกคุณยังมี Wall Street และบุคคลภายในของรัฐบาลที่พูดไม่ดีของสินค้าโภคภัณฑ์ เหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถพิมพ์ที่จะเมื่อพวกเขาต้องกลับเงินกับสิ่งที่เป็นรูปธรรม ความจริงที่ว่าธนาคารเหล่านี้ใช้ประโยชน์และยืมเงินจาก Federal Reserve และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง ส่งผลให้สิ้นสุดที่ไม่ดีสำหรับที่สุด ความเข้มข้นของความมั่งคั่งที่ด้านบนทั้งในสังคมและกับธนาคารเป็นสัญญาณเตือนว่าเราไม่ได้ออกจากป่า มีหนี้จำนวนมหาศาลที่ยังคงอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เพียงมองหนี้ครัวเรือน: หนี้ครัวเรือนที่ชัดเจนได้ลดลงจากยอดเขา แต่ 13.4 ล้านล้านในตราสารหนี้ผ่านการจำนอง, บัตรเครดิต, สินเชื่อรถยนต์, เงินกู้นักเรียนและหนี้อื่น ๆ ยังคงแนบกับชาวอเมริกันเฉลี่ย น่าสนใจพอที่ธนาคาร FDIC ประกันมีสินทรัพย์ 13300000000000 คุณสามารถทำคณิตศาสตร์ได้ที่นี่ แต่นี่เป็นประเทศที่สร้างขึ้นโดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับหนี้และคุณภาพของหนี้ที่โดดเด่นเป็นปัญหาที่ดีที่สุดและคุณต้องเพียงมองไปที่ล้านของการยึดสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้สำหรับการยืนยันว่า ถ้าคุณชอบโพสต์นี้คลิกที่นี่เพื่อสมัครสมาชิกฟีดข้อมูลที่สมบูรณ์และอยู่ถึงวันที่ตลาดที่ท้าทายในปัจจุบัน